คลอดแล้ว.... คลอดแล้ว ( อุแว้.. อุแว้.. )

ระยะต่างๆ
ของการคลอดที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะนั้น
มีอะไรบ้าง
การเจ็บท้องคลอดเป็นกระบวนการของร่างกาย โดยมดลูกจะเริ่มหดรัดตัวและปากมดลูกของคุณแม่จะเปิดขยายเพื่อให้ทารกสามารถเคลื่อนผ่านออกมาสู่โลกภายนอก
การเจ็บท้องคลอดเป็นกระบวนการของร่างกาย โดยมดลูกจะเริ่มหดรัดตัวและปากมดลูกของคุณแม่จะเปิดขยายเพื่อให้ทารกสามารถเคลื่อนผ่านออกมาสู่โลกภายนอก
ระยะที่หนึ่งจะประกอบด้วยระยะย่อยๆ คือระยะเริ่มต้น
ระยะเร่ง และระยะเปลี่ยนผ่าน ในแต่ละระยะนี้
ปากมดลูกของคุณแม่จะเริ่มบางตัวและเปิดกว้างออกจนถึง 10
เซนติเมตร เพื่อเตรียมคลอด ส่วน ระยะที่สองของการคลอด
เป็นระยะเบ่งคลอดที่คุณแม่จะเบ่งคลอดลูกน้อยออกมา และระยะที่สาม
จะเป็นระยะคลอดทารก
ระยะที่หนึ่ง
การคลอดระยะที่หนึ่งอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง หรือในบางกรณีอาจยาวนานเป็นวันๆ ดังนั้น คุณแม่จึงไม่ควรตกใจเมื่อเริ่มเจ็บท้องในช่วงเริ่มต้น
การคลอดระยะที่หนึ่งอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง หรือในบางกรณีอาจยาวนานเป็นวันๆ ดังนั้น คุณแม่จึงไม่ควรตกใจเมื่อเริ่มเจ็บท้องในช่วงเริ่มต้น
ความรู้สึกในช่วงต้นของการเจ็บท้องคลอด
สำหรับคุณแม่หลายท่าน อาการแรกสุดของการเจ็บท้องคลอด
ก็คือ ความรู้สึกปวดหน่วงๆ คล้ายกับการปวดท้องเวลามีประจำเดือน นอกจากนี้
คุณแม่อาจมีอาการท้องผูก ท้องเฟ้อ หรือรู้สึกปวดท้องหรือปวดหลังร่วมด้วย
คุณแม่บางท่านอาจท้องเสีย รู้สึกไม่สบาย หรือคลื่นไส้อาเจียน ทั้งนี้
เพราะในระยะเริ่มต้นของการเจ็บท้องคลอด ระบบการย่อยอาหารของคุณแม่จะทำงานช้าลง
ดังนั้น คุณแม่ควรรับประทานอาหารเบาๆ แทน เช่น ซุป ซีเรียล หรือขนมปังปิ้ง
และดื่มน้ำมากๆ
ในตอนแรกคุณแม่อาจจะไม่ทราบว่าความรู้สึกไม่สบายตัวนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเริ่มเจ็บท้องคลอด
แต่เมื่ออาการเหล่านี้ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นอาการปวดรุนแรงเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ
หรือที่เรียกว่า การหดรัดตัวของมดลูก
คุณแม่ก็จะทราบว่า
กำลังเข้าสู่ช่วงของการเจ็บท้องคลอดแล้ว
มีมูกขาวข้นออกทางช่องคลอด
ในช่วงที่คุณแม่อุ้มท้องอยู่นั้น
ที่บริเวณคอมดลูกจะมีมูกอุดกั้นอยู่ ในระยะเริ่มต้นของการคลอดหรือก่อนหน้านั้น
มูกหรือมูกปนเลือดจะหลุดออกมาเปรอะกางเกงชั้นในหรือในขณะที่คุณเข้าห้องน้ำ
หรือเรียกกันว่า มีมูกเลือดออกจากทางช่องคลอด
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องมีมูกเลือดออกมาทางช่องคลอดในระยะเริ่มต้นของการคลอดเสมอไป ดังนั้น อย่ากังวลใจถ้าคุณแม่ไม่มีมูกออกมาทางช่องคลอด บางครั้งมูกอาจออกมาในระยะอื่นของการเจ็บท้องคลอดก็ได้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องมีมูกเลือดออกมาทางช่องคลอดในระยะเริ่มต้นของการคลอดเสมอไป ดังนั้น อย่ากังวลใจถ้าคุณแม่ไม่มีมูกออกมาทางช่องคลอด บางครั้งมูกอาจออกมาในระยะอื่นของการเจ็บท้องคลอดก็ได้
![]() |
น้ำเดิน |
"
น้ำเดิน " ที่พูดถึงนี้
ที่จริงแล้วก็คือน้ำคร่ำซึ่งคอยรองรับลูกน้อยในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์
เมื่อร่างกายคุณพร้อมจะคลอดลูกแล้ว
ถุงน้ำคร่ำจะแตกออกและน้ำคร่ำก็จะไหลออกมาจากช่องคลอด
คุณแม่บางท่านบอกว่าได้ยินเสียง " โพละ " เบาๆ ด้วยซ้ำเมื่อถุงน้ำคร่ำแตก และคุณแม่บางท่านอาจจะมีน้ำไหลออกมาเพียงเล็กน้อย
แต่บางท่านก็ไหลออกมามาก
หากคุณแม่มีน้ำคร่ำเดินตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการเจ็บท้องคลอด คุณแม่อาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด คุณแม่จึงไม่ควรใส่ผ้าอนามัยแบบสอด หรือมีเพศสัมพันธ์ หรือลงแช่น้ำอุ่น
หากน้ำคร่ำเดินแล้ว คุณแม่ควรติดต่อสูติแพทย์ที่ดูแลโดยทันที เพื่อตรวจเช็คว่าถึงเวลาใกล้คลอดแล้วหรือยัง
หากคุณแม่มีน้ำคร่ำเดินตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการเจ็บท้องคลอด คุณแม่อาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด คุณแม่จึงไม่ควรใส่ผ้าอนามัยแบบสอด หรือมีเพศสัมพันธ์ หรือลงแช่น้ำอุ่น
หากน้ำคร่ำเดินแล้ว คุณแม่ควรติดต่อสูติแพทย์ที่ดูแลโดยทันที เพื่อตรวจเช็คว่าถึงเวลาใกล้คลอดแล้วหรือยัง
การเจ็บท้องคลอด
การเจ็บท้องคลอดเกิดจากการหดรัดตัวและผ่อนคลายเป็นจังหวะๆ
ของกล้ามเนื้อบริเวณท้องและหลังของคุณแม่
และคุณแม่จะรู้สึกเจ็บมากกว่าอาการท้องแข็งในช่วงตั้งครรภ์
หากคุณแม่เข้าสู่ระยะเจ็บท้องคลอดแล้ว คุณแม่จะรู้สึกว่ามดลูกหดรัดตัวรุนแรงขึ้น นานขึ้น และถี่ขึ้นเรื่อยๆ
โดยปกติแล้ว ในช่วงเริ่มต้น มดลูกจะหดรัดตัวทุกๆ 10 นาที โดยแต่ละครั้งกินเวลานาน 40 วินาที เมื่อถึงเวลาใกล้คลอดแล้ว มดลูก ก็ จะหดรัดตัวทุกๆ 30 วินาที และแต่ละครั้งกินเวลานานกว่า 1 นาที อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย เพราะคุณแม่แต่ละท่านอาจมีระยะเวลาการบีบรัดตัวของมดลูกแตกต่างกันไป
หากคุณแม่เข้าสู่ระยะเจ็บท้องคลอดแล้ว คุณแม่จะรู้สึกว่ามดลูกหดรัดตัวรุนแรงขึ้น นานขึ้น และถี่ขึ้นเรื่อยๆ
โดยปกติแล้ว ในช่วงเริ่มต้น มดลูกจะหดรัดตัวทุกๆ 10 นาที โดยแต่ละครั้งกินเวลานาน 40 วินาที เมื่อถึงเวลาใกล้คลอดแล้ว มดลูก ก็ จะหดรัดตัวทุกๆ 30 วินาที และแต่ละครั้งกินเวลานานกว่า 1 นาที อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย เพราะคุณแม่แต่ละท่านอาจมีระยะเวลาการบีบรัดตัวของมดลูกแตกต่างกันไป
ระยะที่สอง
ระยะที่สองของการคลอด
จะเริ่มขึ้นเมื่อปากมดลูกของคุณแม่เปิดกว้างออกถึง 10
เซนติเมตร และจะสิ้นสุดลงเมื่อทารกคลอดออกมา
หากท้องนี้เป็นท้องแรก ระยะที่สองอาจใช้เวลาถึง 1
ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น แต่หากไม่ใช่ท้องแรก
ก็จะใช้เวลาสั้นกว่านั้นมาก บางครั้งเพียงแค่ 5
นาทีเท่านั้น
การเบ่งคลอด โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของคุณแม่จะบอกเองว่าเมื่อไหร่ควรเบ่งคลอด ซึ่งเวลานั้น คุณแม่จะมีความรู้สึกอยากเบ่งจนสุดที่จะกลั้นไว้ได้ เมื่อหัวลูกโผล่พ้นออกมาทางช่องคลอด คุณหมออาจขอให้คุณแม่หยุดเบ่งก่อนและกลั้นลมเบ่งไว้ด้วยการหายใจสั้นๆ ตื้นๆ คล้ายคนหอบ ระยะเจ็บเบ่งนี้ เป็นระยะที่มีความละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความอ่อนโยนพอสมควรเพื่อไม่ให้ปากช่องคลอดฉีกขาดมากเกินไป จากนั้น เมื่อกล้ามเนื้อขยายออกและมดลูกหดรัดตัวรอบใหม่ คุณแม่จึงค่อยออกแรงเบ่งอีกครั้ง และในที่สุดทารกก็จะคลอดออกมา คุณหมอจะสำรวจทารก ตัดสายสะดือ และห่อหุ้มลูกน้อยด้วยผ้านุ่มๆ ก่อนจะส่งให้คุณแม่อุ้ม “ยินดีด้วยนะคะ ลูกของคุณแม่คลอดออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว”
การเบ่งคลอด โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของคุณแม่จะบอกเองว่าเมื่อไหร่ควรเบ่งคลอด ซึ่งเวลานั้น คุณแม่จะมีความรู้สึกอยากเบ่งจนสุดที่จะกลั้นไว้ได้ เมื่อหัวลูกโผล่พ้นออกมาทางช่องคลอด คุณหมออาจขอให้คุณแม่หยุดเบ่งก่อนและกลั้นลมเบ่งไว้ด้วยการหายใจสั้นๆ ตื้นๆ คล้ายคนหอบ ระยะเจ็บเบ่งนี้ เป็นระยะที่มีความละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความอ่อนโยนพอสมควรเพื่อไม่ให้ปากช่องคลอดฉีกขาดมากเกินไป จากนั้น เมื่อกล้ามเนื้อขยายออกและมดลูกหดรัดตัวรอบใหม่ คุณแม่จึงค่อยออกแรงเบ่งอีกครั้ง และในที่สุดทารกก็จะคลอดออกมา คุณหมอจะสำรวจทารก ตัดสายสะดือ และห่อหุ้มลูกน้อยด้วยผ้านุ่มๆ ก่อนจะส่งให้คุณแม่อุ้ม “ยินดีด้วยนะคะ ลูกของคุณแม่คลอดออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว”

ระยะที่สาม
ฟังดูอาจเป็นเรื่องแปลกที่การคลอดยังไม่สิ้นสุดลงหลังจากที่ทารกคลอดออกมาแล้ว
นั่นก็เพราะคุณแม่ยังต้องรอคลอดรกก่อน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป
สูติแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์จะอยู่กับคุณแม่เพื่อดูแลการคลอดระยะที่สามนี้จนสิ้นสุดการคลอดทารก
คุณหมออาจเสนอการฉีดยาเพื่อช่วยเร่งการคลอดทารกให้เร็วขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น
การคลอดระยะที่สามนี้จะใช้เวลาประมาณ 5
–15 นาที แต่หากคุณแม่ต้องการจะคลอดทารกเองตามธรรมชาติ
ก็อาจใช้เวลานานกว่านั้นซึ่งอาจนานถึง 1
ชั่วโมง คุณแม่จะรู้สึกว่ามดลูกเริ่มต้นบีบรัดตัวใหม่
แต่จะไม่รุนแรงเท่ากับระยะที่สอง
จากนั้นทารกที่หลุดลอกแล้วก็จะดันผ่านปากมดลูกที่เปิดกว้างอยู่ออกมาทางช่องคลอด
เมื่อทารกคลอดออกมาหมดแล้ว
คุณหมอจะนำทารกไปตรวจเพื่อให้แน่ใจว่ารกลอกตัวออกหมดแล้ว
และจะกดบริเวณหน้าท้องของคุณแม่เพื่อให้แน่ใจว่ามดลูกเริ่มหดรัดตัวลงแล้ว
การให้ลูกดูดนมแม่ทันทีหลังคลอด
หากคุณแม่ได้โอบกอดลูกน้อยแบบเนื้อแนบเนื้อทันทีหลังคลอด
คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่ให้ลูกดูดนมแม่ได้เลยทันที
เพราะจะช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูก 

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น